สำหรับรีวิวนี้จะขอพาทุกท่านไปย้อนวัยใสๆ ที่สวนสนุก “Disneyland Hong Kong” กันครับ นอกจากจะพาไปอัพเดทกันว่าตอนนี้ที่นี่มีอะไรใหม่ๆ โดนๆ กันแล้ว ก็จะขอพาชมบรรยากาศการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของดีสนีย์แลนด์ฮ่องกงแห่งนี้อีกด้วย อีกทั้งในช่วงที่ผมกับครอบครัวไปนั้น ก็จะเป็นช่วงอีสเตอร์ของที่นั่นพอดี ภายในสวนสนุกก็จะมีการประดับประดาด้วยไข่อีสเตอร์ ที่ทำเป็นธีมของเหล่าตัวละครดีสนีย์ หรือ Eggstravaganza ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถมาเพลิดเพลินกับการค้นหาไข่ได้อีกด้วย
หลังจากที่ 2 ตอนแรก… ไกด์ตัวน้อยเราได้พาไปชมความสะดวกสบายของสายการบิน “ฮ่องกงแอร์ไลน์” รวมไปถึงได้พาไปชม “โรงแรม” ที่พักภายในดีสนีย์แลนด์ฮ่องกงแห่งนี้กันมาแล้ว ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปชมตอนที่ผ่านมานี้ สามารถไปติดตามย้อนหลังกันได้ที่…
บินสบายๆ…ไปกับ Hong Kong Airlines: Business Class – http://www.9journeythailand.com/attraction_review/บินสบายๆ-ไปกับ-hong-kong-airlines-business-class/
และ
รีวิว: พาชม พาชิมใน “โรงแรม” ที่ Disneyland Hong Kong – http://www.9journeythailand.com/hotel_review/disneylandhongkonghotel/
ก่อนที่จะพาทุกท่านไปตะลุยกันที่สวนสนุกแห่งนี้ ขอมาอัพเดทล่าสุดกับราคาบัตรผ่านประตูให้ดูกันก่อนครับ
– บัตรสำหรับบุคคลทั่วไป (อายุ 12 – 64 ปี) ราคา 2,533 บาท สำหรับบัตรผ่าน 1 วัน / และราคา 3,473 บาท สำหรับบัตรผ่าน 2 วัน
– บัตรสำหรับเด็ก (อายุ 3-11 ปี) ราคา 1,810 บาท สำหรับบัตรผ่าน 1 วัน / และราคา 2,468 บาท สำหรับบัตรผ่าน 2 วัน (เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี!)
– บัตรสำหรับผู้สูงอายุ (อายุ 65 >) ราคา 470 บาท สำหรับบัตรผ่าน 1 วัน / และราคา 799 บาท สำหรับบัตรผ่าน 2 วัน
*** สำหรับช่องทางการจำหน่าย สามารถเข้าไปจองโดยตรงได้จาก *** www.hongkongdisneyland.com หรือจะจองผ่านตัวแทนในไทยอย่าง www.hongkongfanclub.com ก็ได้เช่นกันครับ
ณ ตอนนี้ไกด์ตัวน้อย…ก็เตรียมพร้อมที่จะไปตะลุยในดีสนีย์แลนด์ฮ่องกงกันแล้ว ลองตามไปชมกันครับว่าตอนนี้ที่นี่มีอะไรใหม่ๆ มันส์ๆ น่าสนใจกันบ้าง …ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ตามไกด์ตัวน้อยไปได้เลยครับ!!!
ปล. ในรีวิวนี้ ผมขออนุญาติรวบรัดภาพและรีวิวของทั้ง 3 วัน รวมกันเลยนะครับ เนื่องจากทริปนี้ผมและครอบครัว เข้าดีสนีย์กันมาแบบ 3 วันติดเลย บรรยากาศและผู้คนอาจจะดูสลับกันไปบ้าง นิสสสสนึง…
จุดแรกเลยที่ใครก็ตาม ที่ได้ผ่านป้ายด้านหน้าของสวนสนุกแห่งนี้เข้ามา ก็จะต้องมาผ่านน้ำพุดีสนีย์ …เป็นด่านแรก
น้องของขวัญกับพี่จันทร์สม ก็เพลิดเพลินน้ำพุนี้กันมากมาย นี่แค่ด่านแรกนะครับ ใช้เวลาอยู่ที่นี่กันนานพอสมควรเลย
จากตรงนี้เข้าไป ก็จะเป็นจุดจำหน่ายบัตรผ่านประตู รวมไปถึงจุดตรวจสัมภาระต่างๆ ซึ่งที่นี่มีข้อห้ามอย่างนึงที่ผมโดนยึดไป ก็คืออาหารจากภายนอกสวนสนุกครับ พอดีผมลืมมีติดนักเก็ตของแมคโดนัลไว้ไป 1 กล่องในกระเป๋าเป้ พอเจ้าหน้าที่เปิดเจอก็โดนยึดทันที ซึ่งที่นี่ต้องยอมรับเลยครับว่ามีการตรวจกระเป๋ากันอย่างละเอียดจริงๆ ใครคิดจะแอบเอาอะไรเข้าไปกินเนี่ย อาจจะยากนิดนึงนะครับ…
หลังจากที่ผ่านเข้ามาภายในสวนสนุกแล้ว ขอมาอัพเดทกันในโซนแรกก่อนเลยนะครับ “Main Street, USA” เป็นจุดรวมร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกของดีสนีย์
เจอไข่อีสเตอร์กลุ่มแรกรอต้อนรับอยู่ด้วย ณ โซนนี้
บรรยากาศร้านค้าต่างๆในโซนนี้ครับ
ถ้าใครได้มีโอกาสไปในช่วงนี้ ก็สามารถมาหาซื้อสินค้า collection ใหม่ๆของดีสนีย์ได้เลย รวมไปถึงสินค้าที่ออกมาขายเฉพาะในช่วงครบรอบ 10 ปีของดีสนีย์อีกด้วยยยยยย บอกได้เลยว่าน่าซื้อเก็บไว้มากๆครับ
สินค้าอื่นๆก็น่าซื้อไม่แพ้กัน แม่ลูกนี่เพลิดเพลินเลยยยยย
สำหรับแฟนๆ สตาร์ วอร์ส ห้ามพลาดเลย!!! ดาบ สตาร์ วอร์ส น่าซื้อมากกกกกกก
หลังจากใช้เวลาไปหลายชั่วโมงกับโซนนี้ ก็ได้เวลามุ่งหน้ากันต่อ
แต่ระยะทางของถนนเส้นนี้ยาวเหลือเกิน เดินไปเดินมา ก็เลยมาโฉบ Popcorn สตาร์ วอร์ส ซะหน่อย (จริงๆไม่ได้สน Popcorn เลยครับ อยากได้ไอที่ใส่มากกว่า 555)
ระหว่างทาง…ถ้าได้มีผ่านเจ้าหน้าที่ของที่นี่ เธอก็จะได้สติ๊กเกอร์มาเล่นประจำ สรุปคือยังไม่ได้ไปไหนซักที…
ก็ต้องมีดุบ้างไรบ้าง 555
เอาละครับ มุ่งหน้าต่อกันดีกว่า เห็นปราสาทอยู่ใกล้ๆละ
ซึ่งระหว่างทางเดินก็จะเจออะไรหลายอย่าง ล่อตาล่อใจอยู่ตลอด… ลูกโป่งดีสนีย์มีไฟด้วย
ร้านขายของที่ระลึกแบบเล็กๆ จะมีสินค้ายอดฮิตๆมาวางขายให้เฉพาะด้วย อย่างหมวกดีสนีย์ เป็นต้น ใส่กันทั้งสวนสนุก…
สำหรับใครที่ต้องให้นมลูก ก็จะมี Baby Care อยู่ภายในสวนสนุกด้วย พิกัดจะอยู่หลังร้านอาหาร Main Street Corner Café ครับ
มาถึงหน้าปราสาทละครับ ก็ขอมาเก็บภาพรอบๆแถวๆนี้กันก่อน จุดนี้มีการจัดสวนใหม่เพื่อต้อนรับในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของดีสนีย์แลนด์ฮ่องกงด้วย
ถัดมาใกล้ๆกัน ขอพาไปอัพเดทในโซนของ Tomorrowland กันก่อนนะครับ
สำหรับในโซนนี้ก็กำลังจะมีเครื่องเล่นมาใหม่อย่าง Iron Man ด้วย คาดว่าในปี 2016 นี้ จะมีการเปิดตัวและได้เล่นกันแน่นอน
ส่วนสำหรับแฟนๆ ของสตาร์ วอร์ส ถ้าโชคดีก็อาจจะได้มากระทบไหล่กับเหล่าสตอร์มทรูปเปอร์ด้วย ก็ต้องไปลุ้นเอาหน้างานครับว่าพี่แกจะโผล่มาตอนไหน
หรือบางเวลาก็อาจจะเจอเหล่าพนักงานทำความสะอาดมาเซอร์ไพรสโชว์ตีกลองแบบนี้ครับ
ไปต่อกันอีกที่โซนติดๆกันครับ อย่าง Fantasyland ลูกสาวผมเดินผ่านเจ้าเครื่องเล่น Small World นี่มองตาค้างและนิ่งไปเลย ก็ขอพาเข้าไปนั่งเล่นกันซักรอบละกัน
สำหรับในสวนสนุกดีสนีย์ ก็มีการอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับคนที่ใช้รถเข็นได้เป็นอย่างดี มีช่องพิเศษลงเรือแบบนี้ได้สบายๆ
เก็บภาพตัวหุ่นน่ารักๆ ภายใน Small World มาให้ชมกันด้วยครับ เผื่อใครยังไม่เคยมา ต้องแวะมาชมนะครับ ใครมีเด็กเล็กๆมาด้วยนี่ยิ่งห้ามพลาดเลย
ขอพาไปอัพเดทกันต่อที่ Disney’s Storybook Theater ครับ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์กับช่วงเทศกาลครบรอบ 10 ปีของที่นี่เลยครับ โดยมีการแปลงโฉมโรงละครแห่งนี้ให้เป็นห้องสมุดโบราณ สำหรับการแสดงชุด “Mickey and the Wondrous Book” ซึ่งถือว่าเป็นตอนใหม่ล่าสุดของโรงละครแห่งนี้ด้วย
สำหรับโชว์นี้ ขอแนะนำเลยนะครับว่าให้มากันแต่เนิ่นๆ เพราะคนมารอคิวกันแถวยาวมากๆ ใครพลาดไปนี่ต้องเสียใจแน่นอน
เปิดการแสดงด้วยมิกกี้และกู๊ฟฟี่ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเด็กๆกันก่อนเลย (ผู้ใหญ่ก็ด้วย 555 )
การดำเนินเรื่องต่างๆในละตอน จะใช้หนังสือเล่มยักษ์เล่มนี้ เปิดไปทีละหน้า บอกได้เลยว่าเอฟเฟคอลังการมากๆครับ
Little Mermaid กับฉากใต้ท้องทะเล
ละครทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 28 นาที แต่คำเตือนสำหรับเด็กเล็ก อาจจะหลับได้ 555 อย่างลูกสาวผมเป็นต้น จริงๆมันอลังการและสนุกมากครับ แต่อาจจะเหมาะกับเด็กโตขึ้นมานิดนึง
หลังจากดูโชว์เสร็จ ถ้าใครยังอินอยู่ ก็สามารถมาเสียตังกันได้ที่นี่ Storybook Shoppe (แอบเจอไข่อีสเตอร์อีกฟอง)
ใกล้ๆกันก็จะเป็นจุดถ่ายรูปกับเจ้าหญิงโซเฟียด้วย ใครเป็นแฟนๆของเธอ ก็มาแวะถ่ายรูปคู่กันได้นะ
สำหรับโซน Fantasyland นี้ ก็มีอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ต้องมาชมให้ได้ “Fairy Tale Forest” เป็นจุดท่องเที่ยวเปิดใหม่ของโซนนี้เลยครับ ภายในจะมีรูปปั้นจิ๋วและฉากจำลองบรรยากาศจาก 5 เรื่องราวของเจ้าหญิงดีสนีย์
ก่อนจะไปสนุกกันต่อที่โซนอื่นๆ ขอมาปิดท้ายด้วย “ม้าหมุน ซินเดอเรลล่า” ครับ ทายสิแม่หรือลูกที่ฟิน…
ถัดมาขอพาไปชมขบวนพาเหรด Flights of Fantasy Parade กันบ้างครับ สำหรับการแสดงพาเหรดชุดนี้ จะเริ่มเวลาช่วงประมาณบ่าย 3 ของทุกวันนะครับ ก็สามารถมาดักรอถ่ายรูปกันได้ อลังการน่าชมอีกเช่นเคย
ขบวนจะเริ่มตั้งแต่แถวโรงละคร Disney’s Storybook ไปเรื่อยๆจนถึงถนน Main Street, USA และไปจบที่ ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา
มิกกี้มาแล้ว!!! ขวัญใจของเด็กๆจริงๆ กรี๊ดกร๊าดไปตลอดทาง…
รวมเหล่าเจ้าหญิงกันบ้าง…
ท้ายๆขบวนจะเป็นแก๊งของ Toystory
ไหนๆจบด้วยขบวนของ Toystory… ก็ขอไปสนุกกันต่อที่โซนของ Toy Story Land กันครับ (ระหว่างทางก็เจอไข่อีสเตอร์คนแคระทั้ง 7 ด้วย)
ไปลุยกันเลยครับ!!!
หน้าตาไข่อีสเตอร์ของโซนนี้ครับ
เจอไข่เพียบเลย หลายจุดเลยครับ ถ้าใครพอมีเวลา มาตามล่าหาไข่อีสเตอร์ก็น่าจะสนุกดีครับ
มุมมหาชนครับ เด็กๆมาต่อคิวถ่ายรูปกับป้ายชื่อ Andy กันยาวเลย
ใกล้ๆกันก็จะเป็นจุดถ่ายรูปกับเหล่าตัวละครของ Toystory ครับ… Woody กับ Jessie กำลังจะกลับพอดี เสียดายๆ
ส่วนเจ้าหมี Lotso นี่ก็ถือเป็นมาสคอตตัวใหม่ล่าสุดของที่นี่เลย อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันนะครับ
ไปชมเครื่องเล่นอื่นๆกันต่อครับ อย่างเจ้านี่ RC Racer น่าเล่นมาก แต่ต้องสำหรับส่วนสูง 120 cm ขึ้นไปเท่านั้น ลูกสาวอด…
นี่ก็น่าเล่นครับ Toy Soldier Parachute Drop แต่ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสำหรับเด็กเล็กเท่าไหร่ สรุปคือยังไม่ได้เล่นอะไรเลย 555
ร้านขายของที่ระลึก Andy’s Toy Box
ไปสนุกกันต่อกับโซนใกล้ๆกันครับ กับ “Mystic Point” ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่ Mystic Manor เป็นพิพิธภัณฑ์ลึกลับ ที่สามารถนั่งรถพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปสำรวจกันได้ สำหรับเด็กเล็กเล่นได้ ไม่มีปัญหาแต่อาจจะมืดๆหน่อยนะครับ (บริเวณด้านหน้านี่เจอไข่อีสเตอร์หลายฟองเลย)
ข้ามมาอีกหนึ่งโซนใกล้ๆกันที่ Grizzly Gulch มีเครื่องเล่นไฮไลท์ๆอย่าง Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars เป็นรถไฟเหาะสุดเสียวที่ใครๆมาแล้ว ต้องมาเล่นให้ได้ แต่พวกเราไม่ได้เล่น…เพราะปิดปรับปรุงอยู่
ก็เลยเปลี่ยนมาเล่นตามหาไข่และถ่ายรูปเล่นกัน
และก็มาถึงโซนสุดท้ายกันแล้ว “Adventureland” ก็ตามชื่อเลยนะครับ ไปผจญภัยกันเถอะ!!!
สำหรับโซนนี้ที่เป็นไฮไลท์เด่นๆก็น่าจะเป็นบ้านทาร์ซานและการล่องเรือผจญภัย แต่เนื่องจากบ้านทาร์ซานคิวยาวมากๆ เที่ยวนี้เลยขอพาไปล่องเรืออย่างเดียวละกันนะครับ
สำหรับการไปล่องเรือผจญภัยหรือ Jungle River Cruise ไปในแม่น้ำอันลึกลับนี้ มีการจำลองทั้งบรรยากาศของป่าดงดิบและสัตว์ป่าต่างๆ รวมไปถึงกัปตันของเรือที่คอยบรรยายเรื่องราวต่างๆตลอดการเดินทางอีกด้วย (สำหรับเด็กเล็ก เล่นได้สบายๆ)
พอกลับขึ้นฝั่ง ก็มาเจอไข่แอบลอยน้ำอยู่…
ในโซนนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือโชว์การแสดง “Festival of The Lion King” เป็นการแสดงโชว์ที่สุดอลังการจริงๆ มีการใช้นักกายกรรมและนักเต้นควงไฟเข้าร่วมการแสดง รวมไปถึงมีการใช้เหล่าตัวละครต่างๆในเรื่อง Lion King แสดงออกมาได้อย่างสมจริง
การแสดงทั้งหมดนี้จะใช้เวลาอยู่ประมาณ 30 นาที รับประกันว่าเด็กๆไม่หลับแน่นอน ลูกสาวผมนี่แบบตื่นตาตื่นใจตลอด
รีวิวจบกันไปทุกโซนแล้ว… ทีนี้ก็ขอมาปิดท้ายกับไฮไลท์ขบวนพาเหรด “Disney Paint the Night” กันครับ เป็นพาเหรดที่ใช้แสงสีเสียงได้อย่างสุดอลังการจริงๆ มีตัวละครดีสนีย์จากหลากหลายเรื่องมากมายมาเข้าร่วมพาเหรดด้วย สำหรับการแสดงพาเหรดนี้ใช้เวลาอยู่คร่าวๆประมาณ 40 นาที ใครที่จะตั้งใจมาดูพาเหรดแบบเต็มๆชัดๆ ก็ขอแนะนำว่าให้มานั่งรอล่วงหน้าซัก 1-2 ชั่วโมงเลยครับ เพราะคนรอดูนี่แน่นจริงๆ
มาแล้วๆๆๆ !!!
สุดท้ายนี้ก็ขอจบรีวิวทริป Disneyland Hong Kong แต่เพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าข้อมูลการอัพเดทต่างๆ ในทริปนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆท่านที่กำลังวางแผนไปเที่ยวที่นี่กันนะครับ ทั้งในเรื่องของการเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมและสวนสนุก แต่ถ้าท่านใดมีข้อสงสัยส่วนไหน ก็สามารถติดต่อหลังไมค์มาได้ที่ contact@9journeythailand.com หรือจะติดต่อมาทาง inbox ในเฟสบุ๊ค www.facebook.com/9journeythailand ก็ได้เช่นกันนะครับ
สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้ไปชม 2 ตอนที่ผ่านมา ก็สามารถแวะไปชมกันก่อนได้ที่
บินสบายๆ…ไปกับ Hong Kong Airlines: Business Class – http://www.9journeythailand.com/attraction_review/บินสบายๆ-ไปกับ-hong-kong-airlines-business-class/
และ
รีวิว: พาชม พาชิมใน “โรงแรม” ที่ Disneyland Hong Kong – http://www.9journeythailand.com/hotel_review/disneylandhongkonghotel/
สำหรับทริปนี้ต้องขอขอบคุณ…
สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์
สวนสนุก Disneyland Hong Kong
และ HongKongFanClub.com ด้วยนะครับ ที่ดูแลและอำนวยความสะดวกในการจัดทริปให้เป็นอย่างดี
Written by 9journeythailand