ที่เที่ยวเปิดใหม่ จ.กาญจนบุรี – “อุทยานพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์”

 

รีวิวนี้จะพาไปเที่ยวกันแบบสบายๆบ้างนะครับ ไม่เหนื่อยมากใกล้ๆกรุงเทพ อย่างจังหวัด “กาญจนบุรี” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาตลอด และหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจก็คือ “อุทยานพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งองค์พระใหญ่ให้เราได้กราบไหว้สักการะ, นิทรรศการ, วัดทิพย์สุคนธาราม, ส่วนป่าพุทธอุทยาน, และมีอ่างเก็บน้ำให้ได้ชมอีก สำหรับใครที่มีเวลาไม่มาก ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพที่ไม่ควรพลาดเลย

 

PraPhun (71)-1

 

“โครงการนี้เกิดจากความริเริ่มของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ท่านได้ปรารภกับข้าพเจ้าเรื่องความตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปองค์สำคัญขึ้น… วัตถุประสงค์คือ เพื่อเป็นศูนย์รวมความเคารพของพุทธศาสนิกชนอีกแห่งหนึ่ง และเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระพุทธรูปแห่งบามิยัน…”

 

พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าๆ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่คณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้าๆ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดิสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554

 

PraPhun (17)-1

PraPhun (27)-1

 

สำหรับการเดินทางมายัง “อุทยานพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” หรือ “วัดทิพย์สุคนธาราม” ซึ่งจริงๆแล้วจะอยู่ในส่วนเดียวกันนะครับ สามารถลองกดหาเส้นทางใน google map ได้ทั้งสองชื่อเลย และสำหรับเส้นทางการมาเที่ยวที่นี่จากกรุงเทพ ถ้าจะสะดวกที่สุด สามารถใช้เส้นทาง บางบัวทอง-สุพรรณบุรี (340) ได้ เพราะตัววัดจะอยู่ค่อนไปทางจังหวัดสุพรรณบุรีมากกว่า

 

Map

 

บริเวณทางเข้าด้านหน้าครับ มาตามแผนที่ไม่หลงแน่นอน จากถนนทางเข้าตรงนี้ สามารถมองเห็นองค์พระได้เลย โดดเด่นมากๆ

 

PraPhun (96)-1

PraPhun (95)-1

PraPhun (94)-1

 

ภายในจะแบ่งออกเป็น 5 จุดสำคัญที่ไม่ควรพลาด

 

  1. องค์พระพุทธเมตตา
  2. นิทรรศการอนุสรณ์แห่งการตื่นรู้
  3. วัดทิพย์สุคนธาราม
  4. สวนป่าพุทธอุทยาน
  5. อ่างเก็บน้ำในพระบรมราชินูปถัมภ์

 

15219967_1175792312501395_7388593219978974955_n

PraPhun (11)-1

 

หลังจากจอดรถเสร็จ ก็ไปชมในส่วนแรกกันครับ “องค์พระพุทธเมตตา” หรือชื่อเต็มๆว่า “องค์พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคันธารราฐหรือปางขอฝน ที่หล่อด้วยโลหะสำริด สูงถึง 32 เมตร (เกือบๆจะเท่า เทพีเสรีภาพเลยนะ) ประดิษฐาน ณ ลานประทักษิณ ภายในพุทธอุทยานพื้นที่ 320 ไร่

 

PraPhun (12)-1

PraPhun (36)-1

 

“พระปางขอฝน” ตามตำนานครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมาก แต่ด้วยพระบารมีของพระพุทธเจ้า ได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ เปรียบดังที่อำเภอห้วยกระเจานี้มีภูมิประเทศที่แห้งแล้งจนเรียกได้ว่า อีสานจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของการสร้าง “พระปางขอฝน” ที่สุดแห่งความศรัทธากับประติมากรรมทางพุทธศิลป์ พระพุทธรูปสำริดปางขอฝน ที่สูงที่สุดในประเทศไทยและงดงาม ว่ากันว่า หากได้มากราบไหว้ ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน

 

PraPhun (16)-1

PraPhun (14)-1

PraPhun (15)-1

 

สำหรับการดำเนินงานก่อสร้างก่อสร้างที่นี่ ต้องอาศัยทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมสาขาต่างๆ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบโครงสร้างเหล็กภายในองค์พระ ซึ่งต้องมีการทดสอบความมั่นคงแข็งแรงโดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ในการทดสอบการรับแรงลมพายุและแรงแผ่นดินไหว รวมทั้งมีการหล่อผิวด้วยโลหะสำริดที่คุณภาพดีที่สุดจากต่างประเทศ และใช้เทคโนโลยีในการหล่อที่ทันสมัยเพื่อให้สามารถควบคุมความหนาของผิวองค์พระให้มีความบางที่สุดเพียง ๕ มิลลิเมตรเท่านั้น

 

PraPhun (19)-1

PraPhun (26)-1

PraPhun (22)-1

PraPhun (20)-1

 

นอกจากนี้คณะกรรมการฝ่ายก่อสร้างยังได้มีการนำระบบการทำงานตามมาตรฐานอุตสาหกรรมมาใช้ในการตรวจสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและประติมากรอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อให้องค์พระสามารถยืนหยัดอยู่ได้นานนับพันปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นการสร้างพระพุทธรูปที่สะท้อนความเจริญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากที่สุดในยุคปัจจุบัน

 

PraPhun (32)-1

PraPhun (13)-1

PraPhun (24)-1

 

PraPhun (29)-1

 

ไปชมในส่วนอื่นๆกันต่อครับ ที่อยู่ใกล้ๆกันก็คือ อาคารนิทรรศการ ตามไปชมกันครับว่าภายในจะอะไรที่น่าสนใจบ้าง

 

PraPhun (34)-1

PraPhun (37)-1

 

PraPhun (38)-1

 

“อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้” นิทรรศการแห่งนี้ เป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ศึกษาเรื่องราวของพระพุทธศาสนาทั้งแก่นและเปลือก เพราะหากผู้คนได้เข้าถึง “หัวใจของพุทธะ” มากขึ้นเท่าใด การสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนาจะก้าวหน้าขึ้นยืนยาวและหยั่งรากลึกลงถึงในแก่นได้มากขึ้นเท่านั้น

 

PraPhun (43)-1

 

สำหรับรูปแบบการให้บริการ

– บริการนำชมโดยวิทยากร วันละ 7 รอบ รอบละ 50 ท่าน

– ใช้เวลาในการชมนิทรรศการ 45 นาที

– วันจันทร์ ปิดให้บริการ

 

PraPhun (39)-1

PraPhun (42)-1

 

ภายในนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 4 โซน

โซน 1: พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์

โซน 2: การเดินทางของพระพุทธศาสนา

โซน 3: “เจติยะ” สิ่งที่ควรบูชา

โซน 4: คบเพลิงแห่งธรรม

 

PraPhun (41)-1

 

ในโซนแรกนี้ จะพูดถึงองค์พระต้นแบบและการออกแบบก่อสร้างที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้องค์พระพุทธรูปมีความคงทนถาวรนับพันปี

 

PraPhun (45)-1

PraPhun (44)-1

 

“พระพุทธรูปพันปี ความท้าทายทางวิศวกรรม” เริ่มต้นจากประติมากรนำองค์พระต้นแบบ ความสูง 96 ซม. ไปปั้นขยายเป็น 192 ซม. และส่งสแกน 3 มิติ ณ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการคำนวณออกแบบโครงสร้างที่เปรียบเสมือนโครงกระดูกขององค์พระ นำข้อมูลจากการออกแบบโครงสร้างส่งให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เพื่อทดสอบการรับแรงลมพายุและแรงแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบพันปี

 

PraPhun (50)-1

PraPhun (51)-1

PraPhun (53)-1

 

ในโซนที่สอง จะเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนารวมไปถึงการออกเผยแผ่พระธรรมนอกอาณาเขตชมพูทวีปเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา เช่น ดินแดนสุวรรณภูมิ, ทวารวดี, กรุงสุโขทัย, กรุงศรีอยุธยา, กรุงรัตนโกสินทร์ เป็นต้น

 

PraPhun (55)-1

PraPhun (56)-1

PraPhun (57)-1

PraPhun (58)-1

 

มาถึงในโซนที่สาม “เจติยะ” แปลว่า สิ่งที่ควรบูชา หรือสัญลักษณ์ที่ใช้ในการสื่อสารทางพระพุทธศาสนาเพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้แก่ ธรรมเจดีย์, ธาตุเจดีย์, บริโภคเจดีย์, และ อุเทสิกะเจดีย์

 

PraPhun (59)-1

Chedi

 

โซนสุดท้าย… พื้นที่เพื่อการย้อนทวนตกผลึกทางความคิดเรื่องราวการตื่นรู้ อันเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา ประดุจดั่ง “เปลือกที่ห่อหุ้มแก่น” ดำรงอยู่คู่กัน ไม่อาจขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้และทำหน้าที่เป็น “คบเพลิงแห่งธรรม”

 

PraPhun (65)-1

PraPhun (66)-1

PraPhun (67)-1

 

จากในส่วนของนิทรรศการ สามารถเดินต่อไปยัง “สวนป่าพุทธอุทยานและนิทรรศการกลางแจ้ง” ภายในสวนจะมีการจัดทำเรื่องราวเกี่ยวกับ “กำเนิดมหาโพธิ” แสดงเรื่องราวเหตุการณ์ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนาและปรินิพพานผ่านงานประติมากรรมหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงมีพรรณไม้ในพุทธประวัติให้ชม โดยมีต้นพระศรีมหาโพธิเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ

 

PraPhun (40)-1

PraPhun (68)-1

 

บริเวณสะพานก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสวนป่าแห่งนี้ ซึ่งมองเห็นวิวสวนนี้ได้ทั้งหมดเลย สามารถมาแวะเก็บภาพงามๆกันได้นะครับจุดนี้

 

PraPhun (69)-1

PraPhun (70)-1

 

สำหรับใครที่เดินเที่ยวจนเหนื่อยและหิวข้าว ภายในอุทยานก็มีศูนย์อาหารให้บริการอยู่ ราคาเป็นมิตรและอร่อยด้วย อย่างข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ราคาจานละ 30 บาทเท่านั้น

 

PraPhun (87)-1

PraPhun (86)-1

PraPhun (85)-1

PraPhun (84)-1

PraPhun (83)-1

 

หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็ไปชมกันต่อที่ “วัดทิพย์สุคนธาราม” ครับ ถ้าดูจากแผนที่แล้วจะอยู่ห่างออกไปทางด้านหลังองค์พระ สามารถใช้บริการรถรับ-ส่งของทางอุทยานได้ (จุดรับส่งจะอยู่ที่ศาลาบริเวณอาคารสำนักงาน) หรือจะขับรถไปเองก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย

 

PraPhun (74)-1

PraPhun (73)-1

PraPhun (35)-1

 

“วัดทิพย์สุคนธาราม” จัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม พ.ศ. 2547 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าๆ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556.  เริ่มแรกวัดทิพย์สุคนธารามมีเพียงศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ และกุฏิ 5 หลัง มีพระสงฆ์จำพรรษา 4 รูป จากนั้นจึงได้สร้างพระอุโบสถรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนางดงามขึ้นจนแล้วเสร็จ

 

PraPhun (89)-1

PraPhun (91)-1

 

จากพื้นที่แห้งแล้ง บัดนี้ภูมิทัศน์โดยรอบแปรเปลี่ยนเป็นสวนป่าแห่งพุทธธรรม ที่ให้ความร่มรื่น ชุ่มเย็น มีองค์พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ประดิษฐานงามสง่า เป็นที่ยึดมั่นศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

 

PraPhun (90)-1

 

สำหรับทุกวันเสาร์-อาทิตย์ รถรับ-ส่งของทางอุทยาน จะมีพาไปช็อปต่อที่ตลาดเล็กๆของโรงเรียนชาวนา สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้า otop ที่ชาวบ้านนำมาขายกันเอง ทั้งผัก ผลไม้ ปลอดสาร ข้าวหอมกระเจา ผลิตผลทางการเกษตร และที่สำคัญราคาเป็นก็มิตรมากๆ ด้วย แนะนำเลยครับ ห้ามพลาดๆ

 

PraPhun (82)-1

PraPhun (81)-1

 

มะละกอ ลูกละ 20 บาท

 

PraPhun (75)-1

PraPhun (76)-1

 

น้ำสมุนไพร ทำสดๆ ขวดละ 10 บาท กินกับขนมกล้วยร้อนๆ อร่อยมากๆ

 

PraPhun (77)-1

 

ผักปลอดสาร

 

PraPhun (78)-1

 

ข้าวชาวนา ปลอดสารเคมี

 

PraPhun (79)-1

 

ซื้อของกันเสร็จแล้ว ก็ขอพาไปชมกับในส่วนสุดท้ายกันครับ “อ่างเก็บน้ำในพระบรมราชินูปถัมภ์” เป็นสถานที่เก็บกักน้ำเพื่อเอาไปใช้สอยต่างๆ ภายในอุทยาน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิว พักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สามารถขับรถตามป้ายเข้ามาได้เลย ไม่ไกลมากครับ

 

PraPhun (92)-1

PraPhun (93)-1

 

สุดท้ายนี้ ขอพามาปิดท้ายและแนะนำที่พักใกล้ๆกับอุทยาน “แอท เมืองพลอย รีสอร์ท” เผื่อไว้สำหรับใครที่ไม่ได้รีบร้อน จะได้ไม่เหนื่อยเกิน ก็สามารถมาค้างที่นี่ซักคืนได้ ตัวที่พักนั้นอยู่ห่างจากอุทยานเพียงแค่ 23 กม. ขับรถไปสบายๆ 20 นาทีก็ถึง

 

PraPhun (4)-1

Map at MuangPloy

 

“แอท เมืองพลอย รีสอร์ท” เป็นที่พักสไตล์มินิมอล ตั้งอยู่ในอำเภอ บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี รายล้อมด้วยร้านอาหาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห่างจากสนามกอล์ฟชื่อดัง 4 กม.

 

PraPhun (3)-1

PraPhun (8)-1

PraPhun (7)-1

 

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ ก็คือเรื่องราคาครับ แค่หลักร้อยเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ใครเที่ยวที่อุทยานเสร็จแล้ว ไม่อยากขับรถกลับเลย ก็แวะมาพักที่นี่ก่อนได้ แนะนำๆเลย

 

PraPhun (1)-1

PraPhun (2)-1

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่มาติดตามรีวิวนี้กันนะครับ ก็ขอฝากที่เที่ยวเปิดใหม่นี้อีกครั้ง “อุทยานพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ใครที่ผ่านมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีหรือใกล้เคียง ก็ลองแวะมาเที่ยวที่นี่กันดูนะครับ ได้ทั้งความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่สนุกไปอีกแบบจริงๆ แนะนำเลยนะครับ

 

เมื่อใดคำสอนของพระพุทธองค์เข้าถึงกลางใจ… เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาจะคงอยู่สืบไป

 

PraPhun (72)-1

 

Written by 9journeythailand

 

Information:

Rating : 5:5
Price : Free Entrance
Address : Don Salap, Huai Krachao District, Kanchanaburi 71170

Map :