ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะตอนนี้ Traveloka จัดแคมเปญ EPIC SALE แคมเปญลดราคาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% จองได้ตั้งแต่ 25-29 กันยายน 2019 และเดินทางได้ถึงกลางปี 2020 เลย กดรับส่วนลดและดูรายละเอียดคลิก https://www.traveloka.com/th-th/promotion/epicsaleth
>>> และจองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-taiwan
สวัสดีเพื่อนๆทุกๆท่านนะครับ นานทีปีหนก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ก็เช่นเคยครับ ต้องมีทริปดีๆมาเสนอให้เพื่อนๆได้ติดตามกันแน่นอน… เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมและครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยวช่วงสั้นๆ ที่ “ไต้หวัน” มาครับ วางแผนคร่าวๆจะเที่ยวไทเปแค่นิดๆ เพราะเคยไปเจาะลึกมาแล้วเมื่อทริปก่อน ก็เลยกะว่าจะไปเที่ยวที่ “Sun Moon Lake” เพิ่มขึ้น และจะนอนค้าง 1 คืนที่นี่ด้วย แต่หลังจากที่หาข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่มาแล้ว พบว่ามีหลายจุดน่าแวะมากๆ แต่ก็ยังงงๆ กับหลายข้อมูลที่ได้รับมาและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเที่ยวอะไรก่อนดี…
ดังนั้นรีวิวนี้ ผมจึงขอทำเป็นแผนการท่องเที่ยว “Sun Moon Lake” แบบง่ายๆ ที่สามารถตามรอยได้ อาจจะเก็บไม่ครบทุกจุด แต่รับรองว่าไม่พลาดไฮไลท์แน่นอน ใครมีเวลาไม่มาก สามารถแวะมาเที่ยวชิลๆใน 1 วันก็ได้ หรือใครพอมีเวลา ก็ลองมาค้างซักคืน เที่ยวแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ก็ชิลดีเหมือนกันครับ ยิ่งถ้ามาเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็กแบบผมเนี่ย ค้างซักคืนก็กำลังดีครับ….
ผมขอพามาเริ่มต้นการเดินทางจากเมือง Taoyuan (เถาหยวน) นะครับ ทริปนี้พอดีผมและครอบครัวลงเครื่องไฟลท์ค่อนข้างที่จะดึก เลยวางแผนนอนแถวสนามบิน ในตัวเมืองเถาหยวน กะว่าเช้าตรู่จะนั่งรถไฟจากที่นี่ไปได้เลย ซึ่งโรงแรมที่จองมานอนก็คือ “Hedo Taoyuan” เป็น budget hotel เปิดใหม่ (มาก) ผมนั่งแท็กซี่จากสนามบินไปเพียง 15 นาทีเท่านั้น ใกล้มากๆ และตัวโรงแรมยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ TRA Taoyuan อีกด้วย สามารถเดินลากกระเป๋าจากโรงแรมไปสถานีได้เลย
ห้องพักอาจจะรกๆไปนิดนะครับ เพราะมาถึงดึกมาก คุณลูกสาวก็เตรียมนอนกันเลย แต่ยังดีที่ถ่ายทันมารูปนึงโดย Go Pro ห้องพักก็จะประมาณนี้ครับ ไม่ใหญ่มาก อารมณ์เหมือนๆห้องพักที่ญี่ปุ่น
สำหรับการนั่งรถไฟ TRA ก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่เค้าเตอร์เลย หรือจะจองออนไลน์มาก่อนก็ได้ ซึ่งผมแนะนำว่าให้จองออนไลน์มาก่อนเลย ถ้าจองล่วงหน้านานๆ ก็จะมีส่วนลดเพิ่มเติมให้อีกด้วย รายละเอียดตามนี้เลย www.railway.gov.tw สามารถเช็ครอบรถไฟ ราคา หรือจองตั๋วรถไฟก็ตามลิงค์นี้เลยครับ
จากสถานี Taoyuan ใช้เวลาไม่นาน ประมาณเกือบๆ 2 ชม. ก็มาถึงสถานี Taichung ได้อย่างสบายๆ ผมเลือกรอบเช้าเลย มาถึงที่นี่ก็เกือบๆเที่ยงครับ ก็โบกแท็กซี่ไปกันต่อทันทีที่ Sun Moon Lake ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนราคาแท็กซี่ ก็ตามมิเตอร์เลยครับ ประมาณ 1,500 บาท หรือถ้าจะเซฟๆตังหน่อย ก็สามารถใช้บริการรถบัสได้เหมือนกัน
แท็กซี่มาส่งพวกเราที่หน้าโรงแรมเลย ทริปนี้ผมวางแผนมาพัก 1 คืนที่ “SPA HOME Sun Moon Lake Luxury Lakeside Hotel” ได้จองผ่านเวป Traveloka เป็นอีกหนึ่งเวปจองโรงแรม ที่พักหลังผมเข้ามาจองอยู่บ่อยๆเหมือนกัน เนื่องจากมี code ลดราคาออกมาอยู่บ่อยๆ อีกทั้งหน้าเวปก็ใช้งานได้ง่าย และในเรื่องราคาที่โชว์ ก็ดูง่ายเช่นกัน เพราะราคาเป็นเน็ตแล้ว ไม่ได้บวกเพิ่มเติมอะไร
ลิงค์จองโรงแรม ตามนี้เลยครับ –> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/taiwan/spa-home-sun-moon-lake-luxury-lakeside-hotel-1000000546790
การชำระเงินก็ค่อนข้างสะดวกเช่นกันครับ ถ้าใครไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถไปจ่ายได้ที่เค้าเตอร์เซอร์วิสต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้เลย
สำหรับโรงแรมนี้ เป็น boutique hotel ที่มีวิวที่สวยงามมากๆครับ ตัวโรงแรมติดท่าเรือ Shui She เลย ซึ่งเป็นท่าเรือหลักที่ใช้ล่องเรือไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ส่วนด้านข้างโรงแรมก็ติดร้านกาแฟเจ้าดังอีก เรื่องทำเลนี่ไม่ได้พูดถึงเลยครับ ดีจริงๆ
ในส่วนของห้องพักและร้านอาหารของที่นี่ ก็ตกแต่งสวยงามเช่นกันครับ ดูลงตัวดี และมีห้องพักไม่เยอะด้วย ทำให้ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ แม้ราคาที่พักจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลายๆโรงแรมในย่านนั้น แต่ก็คุณภาพอยู่ครับ
ในตัวโรงแรมเองก็มีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่เช่นกัน เนื่องจากมาถึงเที่ยงๆพอดี ก็เลยขอจัดซักมื้อดู เมนูหลักๆก็จะเป็นชาบูครับ แต่รสชาติจืดสนิทเลย ยังดีที่มีน้ำจิ้มโอเคอยู่ ปล. ชาที่เสริฟมา อร่อยมาก ขอได้เรื่อยๆด้วย แนะนำๆครับ
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ออกไปลุยทันที… จุดเริ่มต้นของการเที่ยว Sun Moon Lake ผมขอมาเริ่มกันที่ท่าเรือ Shui She ที่หน้าโรงแรมเลยครับ หลักๆทริปนี้ผมวางแผนไว้จะเที่ยวแบบสบายๆ ในครึ่งวันบ่าย ช้าๆ ไม่เร่งรีบอะไร เพราะมีเด็กเล็กและอากง อาม่ามาด้วย หลักๆ วางแผนไปกันอยู่ 3 จุดครับ คือ
- แวะท่า Xuanguang Temple
- เที่ยวฝั่ง Ita Thao
- นั่งกระเช้าชมวิวที่ Sun Moon Lake Ropeway
เริ่มต้นที่บริเวณหน้าท่าเรือ Shui She จะมีเค้าเตอร์ขายตั๋วเรืออยู่ สามารถซื้อแบบเหมาได้เลย One Day Pass จะอยู่ที่ 300 TWD และก็สามารถซื้อตั๋วกระเช้าได้จากที่นี่ ราคาไป-กลับ 300 TWD เช่นกัน
ได้ตั๋วแล้วก็ไปลงเรือกันครับ เรือจะมีออกทุกๆ 15 นาที สลับๆวนๆกันไปในแต่ท่าเรือ ซึ่งเส้นทางก็จะเริ่มจะท่า Shui She -> Xuanguang Temple –> Ita Thao และก็จะวนกลับมาที่ท่าเรือแรก รอบเรือแรกสุดจะเริ่มตอนประมาณ 9 โมงเช้า จนถึงรอบเรือสุดท้ายตอนประมาณ 5 โมงเย็น (ถ้าวันหยุดมีถึง 5.30 เลย)
ใช้เวลาไม่นาน ก็มาถึงท่า Xuanguang Temple ครับ อากาศเริ่มเย็นๆและมีหมอกลงมา แต่โชคดีที่ฝนไม่ได้ตกครับ เลยได้เดินเล่นถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ บรรยากาศดีมากๆเลย
ส่วนบริเวณหน้าท่าเรือก็มีนักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ ครับ กรุ๊ปทัวร์คนไทยก็หลายอยู่ หากใครมีเวลาเหลือๆ ก็สามารถขึ้นบันไดไปชมวัด Xuanguang ได้นะครับ แต่เนื่องจากผมพาเด็กเล็กและกงม่ามาด้วย เลยขออยู่ถ่ายรูปข้างล่างนี้แทนละกัน
ร้านขายไข่ใบชาเจ้าดัง ถ้ามาแล้วก็ลองไปแวะซื้อทานดูครับ แต่ส่วนตัวผมยังไม่ได้ลองเลย เพราะคิวยาวมากๆๆๆๆ เสียดายๆ อร่อยไหม๊ ช่วยตอบที….
แอบขึ้นบันไดมาเข้าห้องน้ำ แต่เจอวิวด้านหลัง สวยงามดีเหมือนกันครับจุดนี้
พวกเราอยู่ถ่ายรูปกันซักพัก ก็ได้เวลานั่งเรือต่อไปยังท่า Ita Thao กันครับ ก็เช่นเคย ใช้เวลาไม่นาน นั่งเรือประมาณ 15 นาที ก็มาถึง…
สำหรับฝั่ง Ita Thao นี้ ก็เป็นอีกเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวมาแวะและพักค้างคืนกันเป็นจำนวนมาก มีโรงแรมดีๆอยู่เยอะเลยครับ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง ทั้งกระเช้า ตลาดกลางคืน ร้านอาหารต่างๆ น่าสนใจมากๆ โอกาสหน้าผมก็ว่าจะลองมาแวะพักฝั่งนี้ดูบ้าง
ใครเริ่มต้นเที่ยวจากฝั่งนี้ ก็มีเค้าเตอร์ขายตั๋วอยู่ด้านหน้าเลยครับ พร้อมกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยเจ้าถิ่น… ^_^
ตามแผนผมก็จะไปขึ้นกระเช้ากันก่อน เพราะรอบกระเช้าสุดท้ายจะหมดตอน 16.30 ตรงนี้ต้องระวังกันด้วยนะครับ เพราะถ้าคำนวนเวลาผิด อาจจะไปแล้ว กลับไม่ทันนะครับ 555… จากท่าเรือ Ita Thao ก็เดินตามป้ายบอกทางไปได้เลยครับ ใช้เวลาเดินอยู่พอสมควร แต่อากาศเย็นๆก็เดินได้สบายๆเลย
ข้างทางระหว่างที่เดินไปขึ้นกระเช้า ก็สวยงามอยู่ครับ เดินไปถ่ายรูปไป ชิลสุดๆ เดินแปปๆก็ถึงละครับ
ด้านหน้าสถานีกระเช้าครับ ถ้ามีตั๋วแล้วก็ไปขึ้นได้เลย หรือถ้ายังไม่ได้ซื้อไว้ ก็สามารถแวะซื้อที่เค้าเตอร์ขายตั๋วข้างในได้เหมือนกัน
ช่วงขาขึ้นนี่ หมอกลงจัดมากๆครับ ได้อารมณ์จริงๆ คือมองไรไม่เห็นเลย 555
ใช้เวลานั่งกระเช้าอยู่ซักพักใหญ่เลยครับ ก็มาถึงปลายทางที่ Formosan Aboriginal Culture Village เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมของที่นี่ ถ้าใครสนใจจะเข้าไปแวะชมภายใน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้เข้าไปดู เพราะกลัวว่าจะกลับไปขึ้นกระเช้าไม่ทัน ก็เลยเดินซื้อของฝากอยู่แถวๆนั้นแทน
ได้กระเช้าจำลองมาเป็นของฝาก ถูกใจมากๆครับ อันละ 160 TWD
เดินซื้อของอยู่ซักพัก ก็ได้เวลานั่งกระเช้ากลับกันแล้วครับ ขึ้นรอบสุดท้ายพอดีๆ ขากลับหมอกเริ่มจางลงนิดๆ ก็ได้เห็นวิวข้างนอกอยู่หน่อยๆ
หลังจากลงมาจากกระเช้า ก็ไปต่อกันที่ตลาดในตัวเมืองกันครับ มีร้านขายของอยู่เยอะพอสมควรเลย ทั้งร้านขายของฝาก ของกินเล่น ชานม ร้านอาหาร ร้านขายใบชา เต็มไปหมดๆ
ผมใช้เวลาอยู่กับตลาดนี้อยู่พักใหญ่ เดินจนถึงรอบเรือสุดท้ายเลย ขากลับจากที่นี่ หมอกลงจัดมากๆครับ ระหว่างที่นั่งเรือไปก็แอบเสียวๆอยู่นิดหน่อย มีเรือที่สวนมาบีบแตร แต่ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัวเรือเลย 55 แอบหวั่นๆว่ามันจะชนกันไหม๊ แต่คนขับเรือเค้าก็คงชินกัน ขับกันอยู่ทุกวันเนอะ…
ข้ามกลับมายังฝั่ง Shui She แล้ว ร้านค้าต่างๆก็เริ่มจะเปิดไฟกัน ฝั่งนี้ก็คึกคักไม่แพ้ฝั่ง Ita เหมือนกันครับ มีเซเว่น ร้านกาแฟ ร้านอาหารอยู่หลายเลย สามารถออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนได้อย่างชิลๆ ฝากท้องไว้กับย่านนี้ได้เลย…จบวันแรก
หลังจากจบโปรแกรมวันแรกกันไปแล้ว ในวันรุ่งขึ้นผมก็คาดหวังว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ซักครั้ง ตื่นแต่เช้าตรู่กันเลยทีเดียว ออกไปสำรวจเส้นทางต่างๆ
ซึ่งมองออกไปจากที่ระเบียงแล้ว แน่นอนครับ ไม่ได้เห็นอาทิตย์ขึ้นแน่ๆวันนี้ แต่ไหนๆก็อุตสาร์ตื่นเช้ามาแล้ว ก็ออกไปเดินเล่นกันหน่อยละกัน ปะ!
จากหน้าโรงแรมก็จะมีเส้นทางให้เดินเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ วิวทะเลสาบยามเช้านี่แบบว่าสงบมากๆ อากาศดีเวอร์ๆ สดชื่นสุดๆ…
ผมเดินมาเรื่อยๆ ซักระยะก็มาถึงอีกท่าเรือนึงชื่อว่า Chaowu เป็นท่าเรือที่ไม่ใหญ่มาก มีทางเดินลงเรือสองฝั่ง สวยงามมากๆครับ บรรยากาศก็เงียบสงบ คิดในใจถ้าได้นั่งกินกาแฟซักแก้วตอนนี้ รับรองฟินสุดๆ…
เจอลุงคนนึงนั่งตกปลาอยู่ข้างๆ ดูชิลมากๆ
ถ่ายรูปอยู่ซักพัก ก็เริ่มหิวละครับ กลับโรงแรมกินข้าวเช้ากันดีกว่า ระหว่างทางกลับก็เดินถ่ายนู้นนี่ไปเรื่อย ฝั่งตรงข้ามคือยอดเขา Shuishe ชื่อเดียวกับท่าเรือเลย
ก่อนจะลากันไป ก็ขอเอาหน้าตาอาหารเช้าและบรรยากาศมาให้ชมกัน เป็นอีกหนึ่งมื้อที่ประทับใจเลยครับ ใครมีโอกาสมาพักที่นี่ เอาแบบรวมอาหารเช้าไปด้วยเลยนะครับ บรรยากาศดีจริงๆ อยากให้ลองมาสัมผัสกัน (ภาพอาจจะเบลอๆไปนิด ต้องขออภัย แคปรูปมาจาก Go Pro)
สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะวางแผนไปเที่ยว Sun Moon Lake กันนะครับ ใครที่มีเวลาเยอะหน่อย ก็ลองเสริมโปรแกรมอื่นๆเข้าไปได้อีก เพราะจริงๆแล้ว ที่นี่ยังมีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะเลย แต่ถ้าใครมีเวลาไม่มากเหมือนผม ก็ลองตามๆกันไปได้นะครับ เที่ยวเรื่อยๆ ช้าๆแบบนี้ก็สนุกดีนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาติดตามกันนะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ก็ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่รีวิวหน้า รับรองว่าอลังการน่าติดตามแน่นอนครับ
Written by 9journeythailand